วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร วัดพระนอน จังหวัดกรุงเทพมหานคร

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร วัดพระนอน

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร วัดพระนอน จังหวัดกรุงเทพมหานคร หรือ วัดราชโอรส เป็นวัดโบราณมีมาก่อนสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ เดิมชื่อวัดจอมทอง” ต่อมา พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ทรงสถาปนาวัดจอมทองขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม เนื่องจากครั้งที่ทรงยกทัพไปสกัดทัพพม่าที่ด่านเจดีย์สามองค์ เมื่อทัพเรือมาถึงวัดจอมทอง ทรงหยุดพักและทำพิธีเบิกโขลนทวารตามตำราพิชัยสงคราม พร้อมทรงอธิษฐานขอให้การทัพครั้งนี้ได้ชัยชนะ แต่ปรากฏว่าไม่มีทัพพม่ายกเข้ามา และหลังจากยกทัพกลับ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดจอมทองใหม่ และถวายเป็นพระอารามหลวง ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดราชโอรส” อันหมายถึง วัดที่พระราชโอรสทรงสถาปนา

พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ทรงติดต่อค้าขายกับประเทศจีนอยู่ตลอด จึงมีความโปรดปรานในศิลปะแบบจีน และทรงพระราชดำริเปลี่ยนแปลงแบบวัดด้วยศิลปกรรมแบบผสมผสานไทยและจีนตามพระราชหฤทัย พระองค์ทรงได้กำกับการออกแบบส่วนต่างๆ ของการปฏิสังขรณ์อารามนี้ด้วยพระองค์เอง

สิ่งสำคัญภายใน วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร วัดพระนอน

1. พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ เป็นพระวิหารขนาดใหญ่ ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ พระนอนองค์ใหญ่ วัดความยาวจากพระบาทถึงเปลวพระรัศมีได้ 20 เมตร สูง 6 เมตร รัชกาลที่ 4 ทรงถวายพระนามว่าพระพุทธไสยาสน์นารถชนินทร์ ชินสากยบรมสมเด็จ สรรเพชญพุทธบพิตร พระพุทธไสยาสน์องค์นี้มีการทำลวดลายมงคล 108 ประการที่พระบาท พระเขนยสี่เหลี่ยมใต้พระเศียร ลงรักปิดทองประดับกระจกสีฐานชุกชีประดับลวดลายสวยงาม

2. พระวิหารพระยืน ภายในพระวิหารมี 2 ห้อง ห้องแรกอยู่ตอนหน้า เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร (ปางห้ามญาติ) ศิลปะแบบอู่ทอง และห้องที่สองอยู่ทางด้านหลัง ประดิษฐานพระพุทธรูปหลายขนาด หลายปาง มีพระประธานองค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบอยุธยา

* หากผู้ที่อยากกราบสักการะพระยืน จะต้องมาในวันศุก – อาทิตย์ เนื่องจากวันปกติวิหารพระยืนจะไม่ได้เปิดให้เข้าชม

3. พระวิหารพระนั่ง หรือ ศาลาการเปรียญ ภายในประดิษฐานพระประธาน “พระพุทธชัยสิทธิธรรมนาท” เป็นพระพุทธรูปปางประทานพระธรรมเทศนา พระหัตถ์ซ้ายกำมือและถือตาลปัตร ที่สำคัญ ตาลปัตรมีช่องตรงกลางที่ทำให้สามารถแลเห็นพระพักตร์ของพระพุทธรูปองค์นี้ได้ และภายในศาลาการเปรียญ ยังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง สลักจากหิน ลักษณะคล้ายกับที่อยู่ในพระมณฑปพระพุทธบาทจำลองของวัดอรุณราชวราราม

4. พระอุโบสถ ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธาน “พระพุทธอนันตคุณอดุลญาณบพิตร” เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 3.10 เมตร สูง 4.50 เมตร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฏพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระสรีรังคารของพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาเจษฎาบดินทร์พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานไว้ที่ฐานพระพุทธรูป พร้อมกับถวายพระปรมาภิไธยประจำรัชกาล และศิลาจารึกดวงชันษา

5. พระแท่นที่ประทับใต้ต้นพิกุล พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นหมื่นเจษฎาบดินทร์ เมื่อทรงเสด็จมาทรงคุมงานและตรวจการก่อสร้าง ได้ประทับที่พระแท่นใต้ต้นพิกุลใหญ่ และเล่ากันว่าเคยรับสั่งไว้ว่าถ้าฉันตายจะมาอยู่ที่ใต้ต้นพิกุลนี้อาจเป็นเพราะพระราชดำรัสนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จมาพระอารามนี้ จะมาทรงถวายสักการะที่พระแท่นนี้เสมอจนกลายเป็นประเพณี และเวลาเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระราชกฐินหรือเจ้านายเสด็จในการทอดกฐินพระราชทาน เจ้าหน้าที่จะตั้งเครื่องมุกไว้ทรงสักการะ ณ ต้นพิกุลนี้ทุกครั้ง

* แอดมินไปในเวลาที่วัดปิดแล้ว ทั้งพระอุโบสถ วิหาร และประตูอื่นๆ ปิดหมดแล้ว แต่ได้เจอคุณลุงที่ดูแลวัด เลยขออนุญาตให้คุณลุงเปิดประตูวิหารพระพุทธไสยาสน์ให้ได้กราบสักการะ และวันที่แอดมินไปไม่ตรงกับวันที่วิหารพระยืนเปิดให้ชม จึงเก็บภาพมาได้เพียงเท่านี้ หากมีโอกาสแอดมินจะไปเก็บภาพมาเพิ่มเติม

การเดินทางไป วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

รถยนต์ จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยัง วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร มีระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

ขนส่งสาธารณะ จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่สถานีสยาม เพื่อเปลี่ยนขบวนขึ้นสายสีลม ไปลงสถานีวุฒากาศ และเดินต่อไปยัง วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

ทำเนียบวัดพระนอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *