วัดมเหยงคณ์ วัดพระนอน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ตำบลหันตรา อยู่นอกเขตเมืองมาทางทิศตะวันออก ชื่อวัดมเหยงคณ์ มีรากศัพท์มาจากภาษาบาลี คำว่า มหิยังคณ์ แปลว่า ภูเขา หรือเนินดิน เนื่องจากเขตพุทธาวาสของวัดตั้งอยู่บนเนินดินสูง
ว่ากันว่า สร้างโดยพระนางกัลยา พระมเหสีของพระเจ้าธรรมราชา กษัตริย์ลำดับที่ 8 ของอโยธยา เมื่อก่อนวัดนี้เคยเป็นพระอารามหลวงที่สำคัญแห่งหนึ่ง เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยกรุงศรีอยุธยา จนถึงสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2310 วัดมเหยงคณ์ได้กลายเป็นวัดร้างกว่า 100 ปี ทำให้เมื่อได้รับการบูรณะ บริเวณวัดมเหยงคณ์จึงยังมีโบราณสถานให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม เพื่อบ่งบอกถึงศิลปะการก่อสร้างที่งดงามและระดับความสำคัญของวัดนี้ได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบัน พระครูเกษมธรรมทัต ได้ตั้งสำนักกรรมฐานขึ้น วัดได้รับการดูแลพัฒนามากขึ้น กรมศิลปากรก็ได้ขึ้นทะเบียนวัดมเหยงคณ์เป็นโบราณสถานของชาติ ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2484 และได้เข้าไปบูรณะ ปัจจุบัน วัดมเหยงคณ์เป็นสำนักสอนการปฏิบัติธรรม สอนวิปัสสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียง
วิหารถ้ำปรินิพพาน วัดมเหยงคณ์ วัดพระนอน
ไฮไลท์ของวัดมเหยงคณ์ คือ วิหารถ้ำปรินิพาน หรือถ้ำพระนอน ภายในประดิษฐาน พระบรมศาสดามหาปรินิพพาน พระพุทธรูปปางปรินิพพาน (พระนอน) สร้างด้วยหินทรายแกะสลักก้อนเดียว ความยาว 9 เมตร สีขาวนวลตลอดทั้งองค์ ศิลปะอินเดียคันธารราฎร์ พุทธลักษณะอยู่ในท่าสีหไสยาสน์ บรรทมตะแตงขวา พระพาหาขวาทอดไปกับกระเขนย มีความสง่างาม เมื่อโดนแสงไฟจะเกิดมิติ เสมือนพระนอนองค์นี้มีชีวิต
ภายในวัดมีการบริหารจัดการสถานที่ได้อย่างลงตัว ทัศนียภาพของสถานที่เอื้อกับการปฏิบัติธรรม ร่มรื่น และเย็นสบาย ป่าไม้นานาชนิดเสมือนป่าจริง และทางวัดกำลังสร้างอุโบสถใหม่ อุโบสถปราสาทพระบรมธาตุเจดีย์มหาวิหาร คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในอีก 3 ปี
แนวทางปฏิบัติของวัดมเหยงคณ์ในปัจจุบัน
– สร้างสถานที่ให้สัปปายะ เพื่อรองรับผู้ปฏิบัติธรรม
– ตั้งโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมเพื่อให้ความรู้ทั้ง พระสงฆ์ และ ประชาชนทั่วไป
– เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่พุทธศาสนาในชุมชน
– จัดบวชเนกขัมมภาวนา อบรมจริยธรรม การปฏิบัติธรรม แก่ประชาชนทั่วไป
– ช่วยอนุรักษ์โบราณสถาน และศิลปะของไทยสมัยโบราณ