วัดขุนอินทประมูล วัดพระนอน จังหวัดอ่างทอง สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ มีความยาว 50 เมตร สูง 11 เมตร หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ ชาวบ้านเรียกว่า พระศรีเมืองทอง
องค์พระนอนมีพุทธลักษณะงดงาม พระพักตร์ยิ้มละมุน ดูสงบ และมีขนาดใกล้เคียงกับพระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยเดียวกัน เดิมประดิษฐานในวรวิหาร ต่อมาวิหารหักพังลงหมด จึงดูคล้ายว่าประดิษฐานบนโค่กเนิน
ครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 วัดได้ถูกไฟไหม้กลายเป็นวัดร้างอยู่ประมาณ 100 ปี จนถึงสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ วัดจึงได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นมาอีกครั้ง ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 เสด็จประพาสลำน้ำมะขามเฒ่า ทรงแวะที่วัดนี้เพื่อนมัสการพระพุทธไสยาสน์ถึง 2 ครั้ง และโปรดให้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดเรื่อยมา
ปัจจุบัน องค์พระนอนประดิษฐานกลางแจ้ง ไม่มีวิหารปกคลุม แต่บริเวณรอบองค์พระมีต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้น ทำให้มีความสงบร่มเย็น ซึ่งก็ได้บรรยากาศที่แปลกไปจากภายในพระวิหาร
ตำนานขุนอินทร์ วัดขุนอินทประมูล วัดพระนอน
ศาลรูปปั้นขุนอินทประมูลและโครงกระดูกมนุษย์ ซึ่งขุดพบในเขตวิหารพระพุทธไสยาสน์ เมื่อปี พ.ศ. 2541 ลักษณะนอนคว่ำหน้า มือและเท้ามัดอยู่ด้านหลัง เชื่อกันว่า เป็นโครงกระดูกขุนอินทประมูล ที่เล่าขานว่า ท่านได้ยักยอกทรัพย์ของหลวงมาสร้างปูชนียสถานและและพระพุทธไสยาสน์ เมื่อถูกจับได้จึงถูกลงโทษ เฆี่ยนจนตาย วัดนี้จึงได้ชื่อว่า วัดขุนอินทประมูล
ภายในวัดยังมีพระอุโบสถทันสมัย ที่มีทั้งลิฟต์และบันไดเลื่อนไว้บริการนักท่องเที่ยวผู้มีจิตศรัทธา พระอุโบสถมี 3 ชั้น มูลค่า 100 ล้านบาท โดยชั้น 2 เป็นบริเวณประกอบพิธีทางศาสนา และประดิษฐานองค์พระประธาน นามว่า พระพุทธมงคลจินดาพลบพิธ
บนฝาผนังมีภาพวาดองค์พระนอนและพุทธศาสนิกชนมากมาย ภาพถูกวาดอย่างประณีต เป็นงานที่ละเอียดมาก และยังมีรูปหุ่นขี้ผึ้งของเกจิอาจารย์ดังนับ 10 องค์ประดิษฐานอยู่ ส่วนที่บริเวณชั้น 3 จัดทำขึ้นสำหรับเป็นที่พักของพระผู้ใหญ่โดยเฉพาะและไม่ได้เปิดให้ขึ้นชม ด้านหลังพระอุโบสถมีรูปหล่อสีดำนิล สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
นอกจากนี้วัดขุนอินทประมูลยังมีซากโบราณสถาน วิหารหลวงพ่อขาว ซึ่งเหลือเพียงฐาน ผนังบางส่วนและองค์พระพุทธรูป