ทศชาติชาดก ชาติที่ 7 พระจันทกุมาร แสดงถึงการบำเพ็ญขันติบารมี คือ ความอดทนเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายที่ดีงาม ในพระชาตินี้ พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระจันทกุมาร และทรงบำเพ็ญขันติบารมี ในอดีตกาล ณ เมืองบุปผวดี พระเจ้าเอกราชทรงเป็นกษัตริย์ มีพระโอรสชื่อ จันทกุมาร ดำรงตำแหน่งเป็นอุปราช และมีราชปุโรหิตผู้ทำหน้าที่ตัดสินคดีต่างๆ ชื่อ กัณฑหาล
ผู้ยิ่งด้วยขันติ ทศชาติชาดก ชาติที่ 7 พระจันทกุมาร
กัณฑหาลเป็นคนไม่ยุติธรรม ไม่ซื่อสัตย์ มักจะรับสินบนจากคู่ความอยู่เสมอ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนไปทั่ว วันหนึ่งมีการร้องทุกข์ขึ้น พระจันทกุมารได้ตัดสินคดีใหม่ให้มีความยุติธรรม ผู้คนต่างสรรเสริญยินดี พระเจ้าเอกราชจึงยกหน้าที่นี้ให้จันทกุมารเป็นผู้จัดการแทน ทำให้กัณฑหาลแค้น และผูกใจพยาบาทแต่นั้นมา เพราะต้องเสียผลประโยชน์จากการรับสินบน จึงพยายามหาโอกาสล้างแค้นพระจันทกุมาร
วันหนึ่ง พระเจ้าเอกราชทรงฝันเห็นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เห็นทิพยสมบัติ ความผาสุกสวยงาม รื่นรมย์ในสวรรค์ เมื่อตื่นจากฝัน พระองค์ยังทรงอาลัยและปรารถนาจะได้ไปดินแดนสวรรค์นั้น กัณฑหาลทราบเรื่องจึงออกอุบายว่า ถ้าพระเจ้าเอกราชอยากไปเกิดบนสวรรค์ ให้บูชายัญด้วยพระราชบุตร พระมเหสี ประชาชนหญิงชาย เศรษฐี และช้างแก้ว ม้าแก้ว จึงจะไปสู่สวรรค์ได้ ด้วยความอยากจะไปเสวยสุขในสวรรค์ พระเจ้าเอกราชก็ทรงเห็นดีที่จะทำบูชายัญตามที่กัณฑหาลแนะนำ
พระจันทกุมารอดทนต่อการถูกทารุณกรรมด้วยวิธีต่างๆ เมื่อถึงเวลาพิธีบูชายัญ กัณฑหาลกำลังจะใช้ดาบฆ่าพระจันทกุมาร ในขณะนั้นพระนางจันทเทวีได้อธิษฐานขอให้เทพเทวดาช่วยเหลือ ด้วยแรงอธิษฐาน พระอินทร์จึงเสด็จลงมาช่วยพร้อมกับค้อนไฟ สั่งให้พระเจ้าเอกราชล้มเลิกการบูชายัญ พระเจ้าเอกราชทรงตกใจสั่งให้รีบปล่อยตัวทุกคน กัณฑหาลถูกประชาชนรุมลงทัณฑ์จนตาย ส่วนพระเจ้าเอกราชก็จะโดนด้วย แต่พระจันทกุมารได้ขอไว้ชีวิต พระเจ้าเอกราชจึงถูกขับออกจากเมือง หลังจากนั้นพระจันทกุมารได้ขึ้นครองราชย์ และทรงปกครองบ้านเมืองด้วยความยุติธรรม
สาระสำคัญ คติธรรม พระจันทกุมารชาดก
การอาฆาตจองเวรนั้น ย่อมให้ทุกข์กลับคืนแก่ตนในที่สุด และความหลงในทรัพย์และสุขของผู้อื่นก็ย่อมให้ผลร้ายแก่ตัวได้เช่นกัน