อิทธิบาท 4 หนทางสู่ความสำเร็จ

อิทธิบาท 4 หนทางสู่ความสำเร็จ

อิทธิบาท 4 หนทางสู่ความสำเร็จ ซึ่งจำแนกไว้เป็น 4 ประการ คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา มีความหมายดังนี้

  1. ฉันทะ หมายถึง ความพอใจ รักใคร่ในสิ่งนั้น ความต้องการที่จะทำ ใฝ่ใจรักจะทำสิ่งนั้น และปรารถนาจะทำให้ได้ผลดียิ่งๆ ขึ้นไป
  2. วิริยะ หมายถึง ความเพียร ความพากเพียรในสิ่งนั้น ขยันหมั่นทำสิ่งนั้นด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน
  3. จิตตะ หมายถึง ความไม่ทอดทิ้ง ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น ตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำและสิ่งนั้นด้วยความคิด ไม่ฟุ้งซ่าน
  4. วิมังสา หมายถึง ความไตร่ตรอง ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น หมั่นใช้ปัญญาพิจารณาตรวจหาเหตุผล มีการวางแผน คิดวิธีแก้ไขปรับปรุง

ความสำคัญต่อการทำงานของหลัก อิทธิบาท 4 หนทางสู่ความสำเร็จ

หลักอิทธิบาท ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่จะทำให้ประสบความสำเร็จตามความประสงค์ 4 อย่าง อิทธิบาท 4 จึงมีความหมายกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตและการงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จ จะไม่บรรลุเป้าหมายได้เลย หากปราศจากกลไกของอิทธิบาททั้ง 4 ประการ คอยผลักดันขับเคลื่อนให้ปณิธานหรือเป้าหมายชีวิตประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในโลกปัจจุบันเป็นโลกที่ฉาบฉวยและวุ่นวาย ทำให้ต้องฝึกฝนตนเอง เพื่อจะเข้าใจและเข้าถึงหลักธรรมที่ก่อกำเนิดการพัฒนาตนเองอย่างแท้จริง

ข้อดีของอิทธิบาท 4 ประยุกต์ใช้ในการทำงาน

แบ่งออกเป็นประโยชน์ 4 ประการของหลักอิทธิบาท 4

  1. ประโยชน์ของฉันทะ คือ ทำให้เป็นผู้มีความพอใจ และมีใจรักต่องาน รู้สึกเต็มใจในการทำงาน และทำงานด้วยความสุข
  2. ประโยชน์ของวิริยะ คือ ทำให้เป็นผู้มั่นเพียร และขยันในการทำงาน ไม่มีความเกียจคร้าน มุ่งมั่นที่จะทำงานให้เสร็จ และมีประสิทธิภาพ
  3. ประโยชน์ของจิตตะ คือ ทำให้เป็นคนมีความมุ่งมั่น และจดจ่อกับงานที่ทำ จิตมีความแน่วแน่ และมั่นคงต่อปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  4. ประโยชน์ของวิมังสา คือ ทำให้เป็นผู้ที่รู้จักคิด วิเคราะห์ในงาน ทำให้เข้าใจในกระบวนการของงาน หากเกิดปัญหาก็หาแนวทางแก้ไขได้

หลักธรรมที่ควรรู้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *