ทศชาติชาดก ชาติที่ 2 พระมหาชนก วิริยบารมี

ทศชาติชาดก ชาติที่ 2 พระมหาชนก

ทศชาติชาดก ชาติที่ 2 พระมหาชนก แสดงถึงการบำเพ็ญวิริยบารมี คือ ความพากเพียร ความบากบั่น เป็นเรื่องในอดีตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการบำเพ็ญวิริยบารมีอย่างเข้มงวด แม้ว่าจะมีอุปสรรคมาขวางกั้น ก็ยังมีคีความพากเพียรจนบรรลุเป้าหมาย โดยไม่ละทิ้งความตั้งใจที่มี ซึ่งความเพียรนี้ เป็นอุปนิสัยที่ฝังลึกอยู่ในใจของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ผู้ปรารถนาความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เค้าเรื่อง ทศชาติชาดก ชาติที่ 2 พระมหาชนก

ณ เมืองมิถิลา แห่งรัฐวิเทหะ พระเจ้าอริฏฐชนก ได้ทำสงครามกับ เจ้าโปลชนก พระอนุชาของพระองค์เอง จนสิ้นพระชนม์ไป เจ้าโปลชนกจึงทรงได้เป็นกษัตริย์ครองเมืองมิถิลาสืบต่อมา ฝ่ายพระมเหสีของพระเจ้าอริฏฐชนกเสด็จหนีออกจากเมือง ทรงตั้งใจเสด็จไปอยู่เมืองกาลจัมปากะ หลังจากนั้นไม่นานก็ประสูติพระโอรส พระนามว่า มหาชนก

เมื่อพระมหาชนกทรงเติบใหญ่ ได้ทราบเรื่องราวของพระบิดา จึงทรงตั้งใจศึกษาเล่าเรียนศิลปวิทยาทุกแขนงจนแตกฉาน เพื่อให้มีความรู้ความสามารถ จะได้เสด็จไปเอาราชสมบัติเมืองมิถิลาคืนมา และเมื่อพระชนม์อายุครบ 16 พรรษา จึงได้ขอทุนทรัพย์จากพระมารดา เพื่อนำไปทำการค้าขายทางเรือสำเภา ก็เพื่อจะหาทุนไปชิงเมืองคืนมา พระมารดาทรงนำเอาทรัพย์สินมีค่ามาจากมิถิลา 3 สิ่ง คือ แก้วมณี แก้วมุกดา และแก้ววิเชียร อันมีราคามหาศาล ประทานให้พระมหาชนก

พระมหาชนกทรงลงเรือสำเภาใหญ่ล่องมหาสมุทรร่วมกับพ่อค้าโดยสารหลายร้อยคน แต่ขณะเดินทางเจอมรสุมพายุใหญ่โหมใส่ คลื่นซัดจนเรือแตก ฝ่ายพระมหาชนกก่อนเรือใกล้จะจมทรงกินอาหารจนอิ่ม และทรงมีกำลังจากอาหารทำให้แหวกว่ายน้ำกลางมหาสมุทร 7 วัน 7 คืน ในขณะที่คนอื่นแตกตื่นตกใจจมน้ำหมด เหลือพระมหาชนกองค์เดียว จนนางมณีเมขลาเหาะมาเห็นและศรัทธาในความเพียร จึงช่วยอุ้มพาพระมหาชนกไปไว้ที่ศาลาอุทยานในเมืองมิถิลา

ธรรมราชา มหาชนก ผู้เสด็จออกผนวช

ในเวลานั้น มิถิลานครกำลังปล่อยรถเทียมม้าเสี่ยงทายหากษัตริย์พระองค์ใหม่ เนื่องจากกษัตริย์พระองค์เก่าสิ้นพระชนม์โดยไม่มีรัชทายาท บรรดาเสนาบดีทหารพลเรือนและประชาราษฎร์ทั้งหลายต่างพยายามที่จะเป็นผู้สืบราชสมบัติ แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำให้เจ้าหญิงสีวลีพอพระทัยได้ ด้วยบุญญาธิการของพระมหาชนกทำให้รถม้าวิ่งมาหยุดใกล้แผ่นศิลาที่พระองค์บรรทมอยู่ เหล่าอำมาตย์ต่างพร้อมใจกันอภิเษกพระมหาชนกขึ้นเป็นกษัตริย์

พระมหาชนกทรงได้ราชสมบัติคืนมาสมปรารถนา เพราะทรงมีความเพียรพยายามไม่ท้อถอยหากทรงท้อแท้ก็จะทรงจมน้ำสิ้นพระชนม์ไปแล้ว อยู่มาวันหนึ่ง พระมหาชนกเสด็จประพาสอุทยาน ทรงเห็นต้นมะม่วง 2 ต้น ต้นหนึ่งออกผลเต็มต้นอุดมสมบูรณ์ ส่วนอีกต้นไม่มีผลแม้แต่ผลเดียว แต่เมื่อเสด็จกลับมาอีกครั้งพบว่ามะม่วงต้นที่มีผลเต็มนั้นถูกดึงหักโค่นลงมาหมดไม่เหลือความสมบูรณ์พูลผลให้ได้ดูอีกแล้ว ส่วนต้นที่ไม่มีผลยังอยู่ดี

พระองค์ทรงเห็นโทษของการครองราชสมบัติว่าเปรียบเหมือนต้นมะม่วง ที่มีผลก็มีภัย หากไม่มีผลก็ไม่มีภัย การสละราชสมบัติออกผนวชก็เหมือนต้นมะม่วงที่ไม่มีผลย่อมไม่มีภัย จึงตัดสินใจสละพระราชสมบัติ และทรงออกผนวชในป่าใหญ่แต่ลำพังเพื่อบำเพ็ญสมาบัติ

สาระสำคัญ คติธรรม พระมหาชนก

เรื่องนี้เน้นการบำเพ็ญบารมี ในเรื่องความเพียรพยายาม คือ วิริยบารมี เกิดเป็นคนควรมีความเพียรให้ถึงที่สุด เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่มุ่งหวัง เพียรสุดกำลังจนชีวิตหาไม่ก็จงเพียร แล้วความสำเร็จจะมาเยือน

ทศชาติชาดก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *