วัดดอยแท่นพระผาหลวง วัดพระนอน จังหวัดเชียงใหม่ ประวัติวัดระบุว่าก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.1924 มีตำนานเล่าว่า ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ได้เคยมาเสวยภัตกิจ ณ แท่นหินศิลาขนาดใหญ่ และได้ทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า ภายหน้าหินก่อนนี้จะปรากฏชื่อ ผาหลวงแท่นพระ ซึ่งคือที่ตั้งวัดปัจจุบัน
และยังเคยเป็นที่จำพรรษาของครูบาเจ้าศรีวิชัย หลังจากนั้นวัดได้ถูกทิ้งร้างไป จนกระทั่ง พ.ศ.2519 พระอาจารย์วัลลภกิตติภัทโต อดีตเจ้าอาวาสวัดดอยแท่นพระผาหลวง ได้พบวัดนี้ระหว่างธุดงค์ และได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดขึ้น ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จมายังบ่อน้ำของวัด เพื่อทอดพระเนตรสภาพผืนป่า ทรงมีรับสั่งให้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กรมชลประทาน และหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ ร่วมกันฟื้นฟูผืนป่าบ้านโปง
พระบิ่นหลังต๋ำ วัดดอยแท่นพระผาหลวง วัดพระนอน
บริเวณพื้นที่ของวัด ก่อนทางเข้าวัด ประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่สง่า อยู่บริเวณตีนเขา มีปู่เทพอสูร คอยปกปักรักษาพื้นที่ของวัด และเพื่อรอรับพุทธศาสนิกชนที่จะขึ้นไปสักการะพระพุทธรูปในตำนาน “พระบิ่นหลังต๋ำ” ซึ่งเป็นภาษาเหนือ บิดหลัง คือ การหันหลัง พระประธานที่วัดดอยแท่นพระผาหลวง มีลักษณะพิเศษ คือ พระนั่งหันหลัง หากเดินเข้าทางประตูด้านหน้า จะเห็นพระประธานนั่งหันหลังให้ มีที่เดียวในประเทศไทย บริเวณวัดยังมีพระพุทธธาตุเจดีย์ศรีผาหลวง ตั้งอยู่บนยอดเขา มีทางบันไดนากทอดยาวจนถึงตัวองค์เจดีย์ ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าและพระตระกูลลำพูน 100,000 องค์ ด้านบนยอดเจียด์ประด้วยมรกตหนัก 5 กิโลกรัม แกะเป็นรูปดอกบัว บริเวณผนังรอบพระพุทธาตุเจดีย์ มีภาพประดิษฐ์เล่าพุทธประวัติพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเรื่องราวพุทธวิธีที่พระพุทธองค์ทรงเอาชนะหมู่มนุษย์และมารผจญทั้งปวง “พาหุงมหากา”
การเดินทางไปวัดดอยแท่นพระผาหลวง จังหวัดเชียงใหม่
ตัววัดตั้งอยู่ที่ ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จากเส้นทางถนน เชียงใหม่ – พร้าว ขับมาเรื่อยๆ เลยตลาดแม่โจ้ ให้กลับรถที่หน้าศูนย์วิจัยพืชไร่ และเลี้ยวเข้าซอยขวามือทางไปอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้ ขับตามเส้นทางไปเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายเข้าไปที่อ่างเก็บน้ำห้วยโจ้ เส้นทางผ่านป่าชุมชน เลยอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้ขึ้นไป จะมองเห็นพระนอนองค์ใหญ่อยู่บริเวณตีนเขา