หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ (พรม-ปัน-โย) พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดสะแก อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2447 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา หลวงปู่ดู่เกิดมาในครอบครัวที่เลี้ยงชีพด้วยการทำนา และมีอาชีพเสริมเป็นการทำขนมไข่มงคลขาย
หลวงปู่ดู่ได้ละสังขารลงอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2533 สิริรวมอายุได้ 85 ปี 65 พรรษา และได้รับการพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ในวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2534
ประวัติพอสังเขป หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
เรื่องเล่าปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ดู่ ในขณะที่ท่านเป็นเด็ก ระหว่างที่นั่งรอพ่อกับแม่ทอดขนม ตัวของท่านได้ตกลงไปในสระน้ำแต่ปาฏิหาริย์คือตัวท่านกลับลอยขึ้นเหนือน้ำ พ่อแม่ที่มาเห็นภายหลังจึงได้เข้าไปช่วยชีวิตท่านไว้ทันที
ชีวิตการศึกษาของหลวงปู่ดู่ ท่านมีโอกาสได้เล่าเรียนที่วัดกลางคลองสระบัว, วัดประดู่ทรงธรรม และวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร จนเมื่อท่านอายุได้ 21 ปี ก็ได้เข้าอุปสมบท ณ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับฉายาว่า “พรหมปัญโญ” แปลว่า ผู้มีปัญญาดุจพระพรหม
สำหรับการปฏิบัติพระกรรมฐานของหลวงปู่ดู่ ด้วยความที่ท่านเป็นผู้ใฝ่รู้จึงมีโอกาสได้ศึกษาหาความรู้จากตำรา ชาดก และได้วิชาจากพระอาจารย์หลายท่าน อีกทั้งยังเคยออกเดินธุดงค์จากจังหวัดอยุธยาสู่จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้ท่านมีวิชาติดตัวมากมาย
ด้านชีวิตส่วนตัวของหลวงปู่ดู่ ท่านเป็นผู้ใช้ชีวิตอย่างสันโดษและเรียบง่าย ไม่ยึดติดกับวัตถุภายนอก ท่านมักจะยกปัจจัยที่ชาวบ้านถวายให้มอบแก่ส่วนรวม และยังมอบทุนบางส่วนเพื่อร่วมสมทบการสร้างโรงเรียน และโรงพยาบาลอีกด้วย
หลวงปู่ดู่มีคนเคารพศรัทธามากมาย และยกให้เป็นพระเกจิอาจารย์ ถึงแม้ท่านจะไม่ได้ตั้งตนเป็นพระเกจิอาจารย์ แต่ท่านก็อนุญาตให้สร้างพระเครื่องหลวงปู่ดู่ เพื่อให้บรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านได้บูชา รวมถึงใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจอีกด้วย
คาถามหาจักรพรรดิ คาถาช่วยพลิกชีวิต
หลวงปู่ดู่เป็นผู้แต่งคาถามหาจักรพรรดิ โดยคาถามหาจักรพรรดิ คือ คาถาที่ช่วยพลิกชีวิตจากอุปสรรค ความทุกข์ ให้กลายเป็นชีวิตที่ดีขึ้น เชื่อกันว่า การสวดคาถามหาจักรพรรดิเป็นการช่วยปรับภพภูมิเจ้ากรรมนายเวรของเราให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดเคราะห์กรรมที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวร และยังช่วยให้มีสติ สมาธิ ปัญญา ทำให้ชีวิตดีขึ้น รวมถึงรอดพ้นจากอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง
คาถามหาจักรพรรดิ เป็นคาถาที่สามารถสวดได้ทุกวัน ทุกเวลา แต่ผู้คนมักนิยมสวดกันตอนเวลา 20.30 น. เนื่องจากเป็นเวลาที่ สวรรค์, มนุษย์ภูมิ, นรกภูมิ 3 ดินแดนนี้ ได้เปิดเชื่อมต่อกัน ก่อนจะสวดคาถามหาจักรพรรดิ จะต้องสวดบูชาพระรัตนตรัยก่อน รวมถึงการสมาทานศีล 5 และน้อมรำลึกถึงหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ขอขมาพระรัตนตรัย และเริ่มสวดคาถามหาจักรพรรดิ
คาถามหาจักรพรรดิสามารถสวดได้ตามที่ผู้สวดสะดวก แต่ถ้าให้ดี หากสวดในเวลา เช้า เที่ยง และเย็น ผู้คนมักนิยมสวดเป็นบทสั้น และสวดกันที่ 9 จบ หรือ 108 จบ ตามเลขมงคล แต่ถ้าเป็นช่วงค่ำ จะนิยมสวดเป็นบทยาว ตามเลขวัน โดยวันอาทิตย์สวด 6 จบ, วันจันทร์ 15 จบ, วันอังคาร 8 จบ, วันพุธ 17 จบ, วันพฤหัสบดี 19 จบ, วันศุกร์ 21 จบ และวันเสาร์ 10 จบ